วิธีขายของในShopeeที่อยากแนะนำ
จากบทที่แล้วเราสอนถึงขั้นตอนการลงขายของในแอพShopee กันไปแล้วใช่ไหมคะ มาวันนี้เราเลยอยากจะมาบอกวิธีขายของ เรียกว่าเป็นTips เล็กๆน้อยๆที่มาจากประสบการณ์ตรง อยากนำมาแชร์ให้เพื่อนๆที่กำลังจะขายของได้ทราบกัน ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ
-ในช่องที่ให้ใส่รายละเอียดสินค้า แนะนำให้ใส่แฮชแทกด้วยนะคะ ลูกค้าจะได้หาของเราง่ายขึ้น
-ขายของใน shopee ไม่ต้องเสียค่าบริการ เรียกได้ว่าลงขายได้ฟรีๆกี่ชิ้นก็ได้ไม่จำกัด ยกเว้นจะแอดวานซ์ขึ้นไปหน่อยเช่นรับชำระผ่านบัตรเครดิต(จะมีค่าธรรมเนียม) หรือค่าโฆษณาร้าน เป็นต้น ถ้าขายเล่นๆไม่ได้เยอะแยะมากไม่ต้องซีเรียสจุดนี้ค่ะ
-ในแอพชอปปี้เราสามารถโปรโมทสินค้าของเราได้ฟรีๆโดยเมื่อลงสินค้าเสร็จแล้วจะมีปุ่ม"โปรโมทตอนนี้" โดยจะสามารถกดได้ทุกๆ 4 ชั่วโมงค่ะ นึกออกจอนไหนก็ไปกดกันได้นะคะ
-ถ้าไม่มั่นใจว่าจะสะดวกส่งของวันไหน อย่าลืมติ๊กตรงหัวข้อ "เตรียมส่งนานกว่าปกติ" โดยสามารถใส่จำนวนวันได้ตั้งแต่7-180วันค่ะ เพราะถ้าไม่ได้ติ๊กตรงนี้แล้วเราต้องส่งภายใน7วัน ถ้านานกว่านั้นลูกค้ามีสิทธิ์ยกเลิกคำสั่งซื้อได้นะคะ ถึงตอนนั้นของเราส่งไปแล้ว ของก็ไปแล้ว เงินก็ไม่ได้(เพราะลูกค้ายกเลิก)โทษใครไม่ได้เลยนะคะ ถ้าสุดวิสัยจริงๆแนะนำให้แชทบอกลูกค้าซักหน่อยค่ะว่าต้องเตรียมส่งนาน สามารถขอให้ลูกค้ากดขยายเวลารับของได้ค่ะ
-ถ้าเลือกวิธีการจัดส่งวิธีไหนแล้ว พอลูกค้าสั่งของจะเปลี่ยนไปส่งอีกอย่างไม่ได้นะคะ เช่นตอนแรกเรากรอกวิธีจัดส่งแบบEms แต่พอลูกค้ากดสั่งแล้วเราเปลี่ยนใจไปส่งลงทะเบียนแบบนี้ไม่ได้นะคะ เพราะทางแอพจะเชื่อมกับระบบแทรคกิ้งของบริษัทขนส่ง ซึ่งถ้าเราส่งผิดวิธีจากที่ให้ข้อมูล แอพจะไม่สามารถเช็คสถานะของได้ ปละอาจทำให้เราไม่ได้ค่าส่งฟรีค่ะ(คนขายจะขาดทุน) แต่ถ้าไม่ได้ติ๊กในหมวดนี้ ของจะต้องส่งออกภายใน7วันนับจากวันที่คำสั่งซื้อสินค้าสำเร็จค่ะ
-การตอบแชทลูกค้าถือว่าสำคัญมากค่ะ ตอบยิ่งเร็วยิ่งดี ที่สำคัญคือต้องสุภาพนอบน้อมไว้ค่ะ เพราะบนแอพมีฟังก์ชั่นที่สามารถให้ดาวร้านค้าได้ด้วยค่ะ ถ้าร้านไหนได้ดาวเยอะๆ(ได้ครั้งละ4-5ดาวตลอด) คนก็จะสนใจ และมีเปอร์เซ็นต์ขายง่ายขึ้นค่ะ แต่ถเาร้านได้ได้ดาวระดับ1-2ดวงบ่อยๆ คนก็จะเริ่มลังเลที่จะไม่ซื้อของร้านนั้นค่ะ
-พยายามอย่าถ่ายหน้าบุ๊คให้ลูกค้า เพราะบางกรณีลูกค้าบางคนเป็นมิจฉาชีพ หลอกให้เราส่งหน้าบุ๊คแบงค์ไปให้และไปหลอกให้คนอื่นโอนตังค์เข้าเราแทนค่ะ(เช่น ลูกค้าAจะซื้อกระเป๋ากับเรา แต่ไม่จ่ายผ่านแอพชอปปี้ จะขอจ่ายเข้าบัญชีตรงเราเลย ให้เราถ่ายหน้าบุ๊คไปให้ พอเราถ่ายไปให้นางก็ไปหลอกลูกค้าอBโดยแกล้งทำเป็นว่าตัวเองขายกระเป๋าเอง ทั้งๆที่ไม่มีของ และให้ลูกค้า B โอนเงินเข้าบัญชีเรา แต่ลูกค้าA กลับบอกที่อยู่ผู้รับเป็นที่อยู่ตัวเอง เท่ากับว่าA ได้กระเป๋าฟรี Bเสียเงินเปล่าส่วนเราก็กลายเป็นมิจฉาชีพไปโดยไม่รู้ตัว
หลักๆก็จะมีประมาณนี้ค่ะ ใครสงสัยตรงไหน หรืออยากเพิ่มเติมอะไร พิมพ์คอมเมนต์ทิ้งไว้ได้เลยนะคะ :)
อ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ที่นี่เลยจ้า
-ในช่องที่ให้ใส่รายละเอียดสินค้า แนะนำให้ใส่แฮชแทกด้วยนะคะ ลูกค้าจะได้หาของเราง่ายขึ้น
-ขายของใน shopee ไม่ต้องเสียค่าบริการ เรียกได้ว่าลงขายได้ฟรีๆกี่ชิ้นก็ได้ไม่จำกัด ยกเว้นจะแอดวานซ์ขึ้นไปหน่อยเช่นรับชำระผ่านบัตรเครดิต(จะมีค่าธรรมเนียม) หรือค่าโฆษณาร้าน เป็นต้น ถ้าขายเล่นๆไม่ได้เยอะแยะมากไม่ต้องซีเรียสจุดนี้ค่ะ
-ในแอพชอปปี้เราสามารถโปรโมทสินค้าของเราได้ฟรีๆโดยเมื่อลงสินค้าเสร็จแล้วจะมีปุ่ม"โปรโมทตอนนี้" โดยจะสามารถกดได้ทุกๆ 4 ชั่วโมงค่ะ นึกออกจอนไหนก็ไปกดกันได้นะคะ
-ถ้าไม่มั่นใจว่าจะสะดวกส่งของวันไหน อย่าลืมติ๊กตรงหัวข้อ "เตรียมส่งนานกว่าปกติ" โดยสามารถใส่จำนวนวันได้ตั้งแต่7-180วันค่ะ เพราะถ้าไม่ได้ติ๊กตรงนี้แล้วเราต้องส่งภายใน7วัน ถ้านานกว่านั้นลูกค้ามีสิทธิ์ยกเลิกคำสั่งซื้อได้นะคะ ถึงตอนนั้นของเราส่งไปแล้ว ของก็ไปแล้ว เงินก็ไม่ได้(เพราะลูกค้ายกเลิก)โทษใครไม่ได้เลยนะคะ ถ้าสุดวิสัยจริงๆแนะนำให้แชทบอกลูกค้าซักหน่อยค่ะว่าต้องเตรียมส่งนาน สามารถขอให้ลูกค้ากดขยายเวลารับของได้ค่ะ
-ถ้าเลือกวิธีการจัดส่งวิธีไหนแล้ว พอลูกค้าสั่งของจะเปลี่ยนไปส่งอีกอย่างไม่ได้นะคะ เช่นตอนแรกเรากรอกวิธีจัดส่งแบบEms แต่พอลูกค้ากดสั่งแล้วเราเปลี่ยนใจไปส่งลงทะเบียนแบบนี้ไม่ได้นะคะ เพราะทางแอพจะเชื่อมกับระบบแทรคกิ้งของบริษัทขนส่ง ซึ่งถ้าเราส่งผิดวิธีจากที่ให้ข้อมูล แอพจะไม่สามารถเช็คสถานะของได้ ปละอาจทำให้เราไม่ได้ค่าส่งฟรีค่ะ(คนขายจะขาดทุน) แต่ถ้าไม่ได้ติ๊กในหมวดนี้ ของจะต้องส่งออกภายใน7วันนับจากวันที่คำสั่งซื้อสินค้าสำเร็จค่ะ
-การตอบแชทลูกค้าถือว่าสำคัญมากค่ะ ตอบยิ่งเร็วยิ่งดี ที่สำคัญคือต้องสุภาพนอบน้อมไว้ค่ะ เพราะบนแอพมีฟังก์ชั่นที่สามารถให้ดาวร้านค้าได้ด้วยค่ะ ถ้าร้านไหนได้ดาวเยอะๆ(ได้ครั้งละ4-5ดาวตลอด) คนก็จะสนใจ และมีเปอร์เซ็นต์ขายง่ายขึ้นค่ะ แต่ถเาร้านได้ได้ดาวระดับ1-2ดวงบ่อยๆ คนก็จะเริ่มลังเลที่จะไม่ซื้อของร้านนั้นค่ะ
-พยายามอย่าถ่ายหน้าบุ๊คให้ลูกค้า เพราะบางกรณีลูกค้าบางคนเป็นมิจฉาชีพ หลอกให้เราส่งหน้าบุ๊คแบงค์ไปให้และไปหลอกให้คนอื่นโอนตังค์เข้าเราแทนค่ะ(เช่น ลูกค้าAจะซื้อกระเป๋ากับเรา แต่ไม่จ่ายผ่านแอพชอปปี้ จะขอจ่ายเข้าบัญชีตรงเราเลย ให้เราถ่ายหน้าบุ๊คไปให้ พอเราถ่ายไปให้นางก็ไปหลอกลูกค้าอBโดยแกล้งทำเป็นว่าตัวเองขายกระเป๋าเอง ทั้งๆที่ไม่มีของ และให้ลูกค้า B โอนเงินเข้าบัญชีเรา แต่ลูกค้าA กลับบอกที่อยู่ผู้รับเป็นที่อยู่ตัวเอง เท่ากับว่าA ได้กระเป๋าฟรี Bเสียเงินเปล่าส่วนเราก็กลายเป็นมิจฉาชีพไปโดยไม่รู้ตัว
หลักๆก็จะมีประมาณนี้ค่ะ ใครสงสัยตรงไหน หรืออยากเพิ่มเติมอะไร พิมพ์คอมเมนต์ทิ้งไว้ได้เลยนะคะ :)
อ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ที่นี่เลยจ้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น